Fed และ BOJ กำหนดทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้

เดือน ก.ย. เป็นเดือนที่มีความผันผวนสูง โดยดัชนี S&P500 ปรับตัวลงกว่า 4.3% ในสัปดาห์แรกของเดือน ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการณ์ SVB เมื่อปีที่แล้ว ก่อนที่จะรีบาวด์กลับมาบวก 3.4% ในสัปดาห์ที่สองของเดือน ความกังวลเหล่านี้จะมาถึงจุดสูงสุดในสัปดาห์นี้กับการพิจารณาอัตราดอกเบี้ยของ Fed, BOJ และ BOE รวมไปถึงธนาคารกลางอื่นๆ อีก 8 แห่ง

ตัวเลขกิจกรรมเศรษฐกิจจีน (14 ก.ย.)
- สำนักข่าว Bloomberg คาดการณ์ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนได้แก่ ปริมาณเงิน, ยอดค้าปลีก และยอดผลผลิตอุตสาหกรรม จะส่งสัญญาณชะลอตัว

ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ (17 ก.ย.)
- ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐ เป็นตัวเลขที่สำคัญของสัปดาห์นี้ ภายหลังการรายงานตัวเลข CPI และ PPI ที่ร้อนแรงกว่าที่ตลาดคาด โดยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งจะช่วยย้ำภาพของตลาดที่มีลักษณะ goldilocks ที่เป็นผลบวกต่อตลาด

Fed พิจารณาอัตราดอกเบี้ย (18 ก.ย.)
- ยังคงมีความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดดอกเบี้ย 50 bps ถึงแม้ว่าตัวเลข CPI จะออกมาสูงกว่าคาด โดยความเป็นไปได้สูงขึ้นหลังการเผยแพร่บทความจาก Wall Street Journal  ณ ปัจจุบัน ตลาดให้น้ำหนักความเป็นไปได้ 34% ที่จะลดดอกเบี้ย 50 bps

FTSE Rebalance (20 ก.ย.)
- ปรับ rebalance ดัชนี FTSE All World All Cap Index ประจำเดือนก.ย. มีผลสิ้นวันที่ 20 ก.ย.

BOJ พิจารณาอัตราดอกเบี้ย (20 ก.ย.)
- ตลาดติดตามการพิจารณาดอกเบี้ยของ BOJ แม้ว่าโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้จะต่ำ แต่ความเห็นของคณะกรรมการ BOJ ทั้งจาก Ueda และ Nakagawa ได้เพิ่มความคาดหวังว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค. หรืออย่างเร็วในเดือน ต.ค. ดังนั้นตลาดจึงเพิ่มน้ำหนักของคำให้สัมภาษณ์ของ Ueda เพิ่มมากขึ้น

PBOC พิจารณาอัตราดอกเบี้ย LPR (20 ก.ย.)
- ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัว แต่ Bloomberg คาดการณ์ PBOC จะยังคงดอกเบี้ย Loan Prime Rate (LPR)

แจ้งเตือนวันหยุด
- 16 ก.ย. วันหยุดตลาดหุ้นและตลาดฟิวเจอร์สญี่ปุ่น แต่ Nikkei41 DW ดูแลสภาพคล่องตามปกติโดยเปลี่ยนมาอ้างอิงสัญญา Nikkei Futures ที่ตลาด CME
- 18 ก.ย. วันหยุดตลาดหุ้นฮ่องกง จะไม่มีการดูแลสภาพคล่องใน DW บน หุ้นฮ่องกง